วันลอยกระทงเมืองไทย ใกล้เข้ามาแล้ว  หลายคนคงจะเตรียมตัววางแผนกันว่า "ปีนี้ เราจะไปลอยกระทงกันที่ไหน"  แต่บางคนแย่กว่านั้น ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะไปลอยกระทงกับใคร  ผู้เขียนแนะนำว่า ถ้าไปลอยกระทงกับใครไม่ได้ก็ไปลอยกระทงกับคนในครอบครัวนั่นแหล่ะดีที่สุด  คนในครอบครัวเราสำคัญที่สุดในทุกเมื่อทุกเวลา

     พูดถึงการลอยกระทงแล้ว ทำให้ผู้เขียนนึกถึงสมัยเด็กไปลอยกระทงกับพ่อแม่ และพี่ๆ น้องๆ แต่การลอยกระทงในสมัยนั้นไม่ครึกครื้นวุ่นวายเหมือนทุกวันนี้  ซึ่งเมื่อก่อนแต่ละคนไปด้วยศรัทธาจริงๆ ตามความเชื่อของตน  เช่น บางคนไปลอยกระทงเพราะคิดว่าจะสามารถลอยทุกข์ลอยโศกออกไปจากชีวิต ลอยเคราะห์หรือสิ่งไม่ดีออกไป  เขาก็จะตัดเล็บมือเล็บเท้าใส่กระทงลอยไปกับสายน้ำ  ผู้เขียนมาคิดย้อนหลังเกี่ยวกับการตัดเล็บมือเล็บเท้าเพื่อให้เป็นตัวแทนของการลอยทุกข์ลอยสิ่งไม่ดีนั้น  ก็เพราะว่าคนเราทำสิ่งไม่ดีต่างๆ ด้วยมือและเท้า  หรือต้องการจะลืม ทิ้งอดีตที่ผ่านมานั่นเอง

     

     ส่วนบางคนก็ทำการลอยกระทงเพื่อบูชาพระแม่คงคา   ประมาณว่าเราเคยทิ้งของเน่าของเสียลงแม่น้ำคงคามามากต่อมาก  วันนี้จึงทำการบูชาแม่น้ำคงคาด้วยของหอมบ้าง    การลอยกระทงเพื่อสะเดาะเคราะห์ การลอยกระทงเพื่อบูชาแม่น้ำคงคา ผู้เขียนไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่  เพราะว่าประเทศไทยของเราโดยมากนับถือพระพุทธศาสนา  ซึ่งว่ากันตามศาสนาแล้วจัไม่ทำการสะเดาะเคราะห์  ไม่ทำการบูชาแม่น้ำคงคา  ชาวพุทธเราจะทำพิธีอะไรจึงมักเนื่องด้วยพระพุทธเจ้า  พระธรรม พระสงฆ์  จึงเห็นด้วยกับความเชื่อที่ว่าลอยกระทงเพื่อบูชาลอยพระพุทธบาทริมฝั่งแม่น้ำ  เราจะสังเกตว่าประเพณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองไทยมักจะเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาทั้งนั้น จะต้องเกี่ยวกับทางวัด  การลอยกระทงก็เหมือนกัน  เดิมทีมาจากวัด มาจากวัง  ต่อมาถูกกระแสธุรกิจดึงออกไปนอกวัดกันเยอะ  การจัดงานลอยกระทงต่างๆ กลายเป็นเรื่องของธุรกิจไปเสียเแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวมากมายต่างแย่งกันจัดงานเพื่อดึงคนเข้าไปเที่ยวลอยกระทงเพื่อธุรกิจของตนจนลืมความเป็นมาแต่เดิมของการลอยกระทง  เราอยากจะรักษาวัฒนธรรมไทยไว้  ก็ควรรักษาไว้แบบเดิม  ด้วยการลอยกระทงเพือบูชาลอยพระพุทธบาท ระลึกถึงแต่สิ่งดีงาม เพื่อนำสิ่งดีงามเข้าสู่ตนตลอดไป...

พระเครื่อง